ปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษของเราดูไม่หักหาญน้ำใจอีกฝ่ายเกินไป!
การตอบปฏิเสธไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็บ่อยครั้งที่เราก็จำต้องปฎิเสธบ้างไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล์หรือในการพูด แล้วจะทำอย่างไรให้การปฏิเสธเป็นภาษาอังกฤษของเราดูไม่หักหาญน้ำใจอีกฝ่ายเกินไป ครั้นจะตอบว่า No. ไปเลยมันก็จะดูแข็งไปนิด ลองใช้ I am not so sure if.. กันดูค่ะ
สมมติว่าสถานการณ์คือ เราทำงานกับนิตยสาร “ธุรกิจ” เล่มนึงซึ่ง บก.บอกว่าอยากลงเรื่อง Justin Bieber (อาจเป็นเพราะ บก.ชอบเป็นการส่วนตัว) ถึงจะกลัวถูกไล่ออกเหลือเกินแต่เราก็อยากจะบอกว่าอย่าเลย จะตอบว่าอย่างไรดีคะ
a. No. I don’t think so. ผมไม่เห็นด้วยนะครับ
b. I don’t agree with you. ผมไม่เห็นด้วยนะครับ
c. It is not a good idea. มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนะครับ
ทั้ง 3 ข้อก็ไม่ได้มีอะไรผิดนะคะ แต่เป็นแนวการตอบมากกว่าที่ดูจะแข็งไปหน่อย อาจถูกไล่ออกได้ง่ายๆ เลือกตอบแบบนี้ได้ค่ะ
d. I am not so sure if I agree with you.
ฉันไม่แน่ใจว่าฉันเห็นด้วยกับคุณมั้ย
e. I am not sure if that’s a good idea.
ฉันไม่แน่ใจว่านั่นคือความคิดที่ดีรึเปล่า
f. I am not sure if readers will like it.
ฉันไม่แน่ใจว่าผู้อ่านจะชอบมั้ย
การใช้ I am not so sure if.. ใช้ต่อด้วย "ประโยคบอกเล่า" ในสิ่งที่เราต้องการพูดไปเลยค่ะ ง่ายๆ ตัวอย่างอื่นๆ นะคะ
I am not so sure if I have enough time.
ฉันไม่แน่ใจว่าฉันมีเวลาพอมั้ย
I am not so sure if I know how to do this. Can you explain?
ฉันไม่แน่ใจว่าฉันรู้วิธีทำอันนี้มั้ย ช่วยสอนหน่อยสิคะ
I am not so sure if she already knows it.
ฉันไม่แน่ใจว่าเค้ารู้เรื่องนี้แล้วรึยัง
I am not so sure if.. ใช้ได้ใน email ธุรกิจด้วยนะคะ
แนะนำต่ออีกนิดว่าพอจบประโยค เราก็เขียนต่อไปด้วยความเห็นเพิ่มเติมหรือสิ่งที่เราจะทำต่อไป ก็จะดูไม่เป็นการตัดบทกันเกินไป
Tip: คำว่า if ปกติแปลว่า "ถ้า" ในที่นี้แปลว่า "รึเปล่า" หรือ "มั้ย".. เป็นเหมือนคำเชื่อมตามหลัก Indirect Question จะยังไม่ลงลึก Grammar นะคะ เอาเป็นว่าใช้ให้ถูกตามนี้ก็เยี่ยมเลยค่ะ
I am not so sure if you like this post. If you do, please click ‘like’ and share it with your friend. :)