top of page

ลูกท่องศัพท์ไม่ได้ ทำอย่างไรดี - ตอนที่ 2

ตอนที่ 2 - เปิดจุก

โพสต์ที่แล้วฝากไว้ว่า “ห้ามท่องศัพท์” นะจ๊ะ ดูจะมีผู้ปกครองน้องตกใจกันอยู่บ้าง แต่หลายคนก็ตื่นเต้นอยากได้เทคนิคต่อ และก็มีคำถามว่าหากไม่ให้ลูกท่องศัพท์แล้วตอนนี้ลูกมีศัพท์อีกยาวเลยที่ยังท่องไม่ได้ จะทำอย่างไรดี


ไม่เป็นไรนะคะ ใจเย็นๆ ค่ะ ณ โมเม้นท์นี้เราต้องยอมถอยหลังไปซักนิด เรื่องนี้ครูพิมอยากให้คุณแม่ “ฟังลูก” แทนที่จะฟังคุณครูนะคะ ลูกท่องไม่ได้ต้องมีเหตุผล ต้องมีที่มา เราหันมาหาสาเหตุแล้วเราแก้ดีกว่าที่จะผลักให้ลูกท่องไปเรื่อยๆ มันไม่เกิดผลดีในระยะยาวนะคะ ยอมให้ผลการท่องหรือสอบเทอมนี้ไม่ผ่านดีกว่าให้น้องต้องสอบตกภาษาอังกฤษไปจนโตนะคะ


บ่อยเลยที่ครูพิมเจอน้อง ม.2 ม.3 ได้ 0 ได้ 1 ภาษาอังกฤษมาแบบได้ซ่อมทุกครั้งไม่เคยพลาด สิ่งแรกที่ทำก็คือให้ลองเขียนศัพท์อย่างที่แนะนำในโพสต์ที่แล้วเลยค่ะ.. ปรากฎว่าน้องทำไม่ได้หลายคำมาก บางคนติดตั้งแต่ข้อ 1.. for กับ from แยกไม่ออกก็มีนะคะ บอกว่าจำไม่ได้ ครูพิมถอยเลยค่ะ ไปยืนตรงจุดที่เค้าเป็น ยังไม่สอนอะไรต่อทั้งสิ้น แกรมม่าหรืออย่างอื่นทิ้งไว้ข้างหลังก่อน เริ่มด้วยการสอนหลักการเขียนศัพท์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะการอ่านคำภาษาอังกฤษให้ออกเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าน้องอ่านไม่ออก เรียนอะไรต่อก็ไม่รู้เรื่อง ก็หมดกำลังใจ ใส่อะไรไปก็ล้นหมด เหมือนขวดยังไม่เปิดจุกอย่างนั้นเลย และเชื่อมั้ยคะพอได้คุยกันไปเรื่อยๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษจ๊ะ ทุกคนเลยค่ะบอกว่า "ไม่ชอบท่องศัพท์..."

ครูพิมจึงมักจะพูดกับพ่อ-แม่เด็กอยู่เรื่อยๆ ว่าการท่องศัพท์เป็นดาบเล่มแรกๆ ที่ทำให้เด็กไม่รักและหันหลังให้ภาษาอังกฤษนะคะ พอไม่ชอบเพราะท่องศัพท์ไม่ได้ก็ยาวเลย เรียนต่อไม่รู้เรื่องไปจนโต ฉะนั้นเรามาช่วยน้องกันตั้งแต่วันนี้กันค่ะ

เทคนิคที่ครูพิมใช้ก็คือ Phonics ค่ะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันมาอยู่บ้างนะคะ หนังสือในเมืองไทยก็มีบ้างไม่เยอะนักเพราะบ้านเราไม่ได้เน้นเรื่องนี้กันเท่าไหร่ ไม่เป็นปัญหาค่ะ เรามาทำสื่อการสอนให้ลูกเองก็ได้ค่ะ ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนที่ไหนก็ได้นะคะ ถ้าคุณพ่อ-คุณแม่สอนลูกได้ลูกจะสนุกในการเรียนมากกว่าใครๆ เลย..

ขั้นแรก - รู้มั้ย.. แต่ละตัวออกเสียงยังงัย

ใช้ต้นไม้ในรูปเป็นหลักในการสอนน้องออกเสียงนะคะ เริ่มจากต้นแรก 1 ยิ้มก่อน เพราะเป็นตัวอักษรที่ออกเสียงไม่ยาก ตรงตัวพอดู

เวลาออกเสียงให้พูดแบบนี้ค่ะ

บี เบอะ เบอะ

ดี เดอะ เดอะ

พี เผอะ เผอะ

ที เถอะ เถอะ

เอฟ เฝอะ เฝอะ


แบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็อาจจะตบมือเป็นจังหวะหรือทำท่าแปะมือสลับกันทีละตัว หรืออาจจะเล่นต่อคำกันก็ได้นะ เช่น

แม่.. บี

ลูก.. เบอะ เบอะ..

หรือ

ลูก.. บี

แม่.. เบอะ เบอะ

ตอนนั่งรถไปโรงเรียนหรือไปไหนๆ ก็เอาไว้ร้องเล่นกับลูกได้นะคะ

Tip: ถ้าน้องโตแล้วก็อาจจะสอนทุกตัวรวดเดียวเลยก็ได้ค่ะ น้องจะเรียนรู้ได้เอง ละก็เวลาออกเสียงเราก็ทำเสียงเล่นๆ สนุกๆ อย่าให้เหมือนเป็นการเรียนนะคะ ลูกจะได้สนุกค่ะ


อีกอย่างคือ ลืมเรื่องการท่องศัพท์ไปพักนึงก่อนนะคะ ^^


~~~~~~~~~

FAB English

เกร็ดภาษาอังกฤษออนไลน์ง่ายๆ ทุกวัน

Related Posts

See All

will และ to be going to ต่างกันอย่างไร

เป็นคำอีกคู่ที่เราก็เรียนมากันตั้งแต่เด็กนะคะ ซึ่งทั้งคู่ก็แปลว่า “จะ” แต่เป็นกันมั้ยคะ เวลาจะใช้ทีไรเราก็มักจะมีคำถามในใจอยู่เสมอเวลา.....

คำว่า “ไม่มี” ไม่ใช่ no have นะคะ

คำนี้ยอดฮิตติดปากคนไทยพอสมควรเลยค่ะ no have สำหรับเวลารีบๆ ที่จะตอบว่า “ไม่มี” .. no have เป็นการแปลที่ตรงตัวเหลือเกินและก็ไม่ถูกต้องด้วย...

Read more
bottom of page